เนื่องจากค่าไฟฟ้าแพงขึ้นทุกวัน ถ้าเราพอที่จะมีวิธีเซฟค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าพึงกระทำเพราะนอกจากจะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าของท่านแล้วยังช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย ดังนั้นผมจึงได้ทำการรวบรวมแนวทางการในการใช้งานแอร์ให้ประหยัดไฟไว้เพื่อให้ท่านได้เลือกปฎิบัติตามความเหมาะสม(เท่าที่จะทำได้) โดยแนวทางส่วนใหญ่จะเป็นแนวทางที่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆครับ

วิธีการใช้แอร์ให้ประหยัดไฟอย่างง่ายๆโดยไม่ต้องลงทุน

1) ปิดพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น

ควรปิดใช้งานพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น เช่น ตอนมีคนอยู่ในห้องแค่คนเดียว เป็นต้น เพราะเมื่อเราเปิดพัดลมระบายอากาศก็จะเป็นการเป่าอากาศที่มีความเย็นออกจากห้อง และก็จะมีอากาศภายนอกที่มีอุณหภูมิสูงกว่าในปริมาตรเท่ากันไหลเข้ามาแทน ซื่งจะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น ดังนั้นเราจึงควรใช้พัดลมระบายอากาศเฉพาะตอนที่มีคนอยู่ในห้องเยอะๆ เช่น ตอนมีประชุม หรือในเวลาที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นต้น

2) งดสูบบุหรี่ในห้องแอร์

ถ้ามีการสูบบุหรี่ในห้องแอร์ก็จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อระบายควันและกลิ่นบุหรี่ออกจากห้อง ซื่งก็จะทำให้อากาศภายนอกใหลเข้ามาทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น และกินกระแสไฟเพิ่มขึ้น และถ้าไม่สูบบุหรี่ภายในห้องแอร์ก็ยังสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้แอร์ไม่อุดตันง่ายอีกด้วย

3) ตั้งปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน

เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล1เครื่อง จะปล่อยความร้อนออกมาประมาณ 250 วัตต์ และส่วนใหญ่จะเป็นความร้อนจากจอมอนิเตอร์ประมาณ 180-200 วัตต์ ยิ่งถ้าเป็นออฟฟิทมีคอมหลายๆเครื่องความร้อนยิ่งสูง ดังนั้นจึงควรตั้งโปรแกรมให้จอคอมปิดโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งาน

4) ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือหลอดไฟที่ไม่จำเป็น

เพราะสิ่งเหล่านี้จะปล่อยความร้อนออกมา ทำให้เป็นภาระของแอร์ที่จะต้องทำงานหนักขึ้น  ซื่งจะเห็นได้ว่าการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์แสงสว่างที่ไม่จำเป็นภายในห้องแอร์จะเป็นการเสียค่าไฟสองต่อ เพราะจะต้องเสียค่าไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปิดทิ้งไว้และยังต้องมาเสียค่าไฟของเครื่องปรับอากาศอีก

5) ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ค่าความร้อนที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องแอร์

ภาระส่วนหนึ่งที่สำคัญของแอร์นั้นเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องด้วย ซื่งอุปกรณ์ที่มักจะมีอยู่ในห้องแอร์ แต่ก็สามารถย้ายออกไปตั้งบริเวณอื่นๆได้ เช่น ตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น เครื่องถ่ายเอกสาร หม้อต้มน้ำร้อน เครื่องชงกาแฟ หม้อหุ้งข้าวไฟฟ้า เป็นต้น

6) ตั้งอุณหภูมิของแอร์ให้เหมาะสม

ถ้าตั้งอุณหภูมิที่รีโมทไว้ที่ 28 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมช่วยจะสามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

• อธิบายแนวทางประหยัดค่าไฟแอร์ด้วยพัดลม

7) ย้ายตู้มาตั้งชิดผนังด้านทิศตะวันออกหรือตะวันตก

สำหรับบ้านที่มีตู้เก็บของ ตู้เอกสาร ตู้หนังสือ ให้ทำการย้ายตู้มาชิดผนังส่วนที่ได้รับแดดโดยตรง(ด้านที่มีความร้อนเข้ามามากที่สุดคือด้านทิศตะวันออกและตะวันตก) การนำตู้ไปตั้งชิดผนังจะช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังได้ส่วนหนึ่ง

8) ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน

มีหลายสำนักงานที่พนักงานออกไปพักเที่ยงกันหมดแล้ว แต่ก็ยังเปิดแอร์ทิ้งไว้ ซื่งทำให้เสียค่าไฟฟ้าไปโดยใช่เหตุ ดังนั้นคนที่ออกไปพักเที่ยงคนสุดท้ายควรเป็นคนที่ปิดแอร์

9) ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด

ไม่ควรเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ในขณะปิดแอร์ เพราะถ้าเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้จะทำให้ความร้อนและความชื้นจากภายนอกจะเข้าไปในห้องและจะสะสมอยู่บริเวณพื้น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ พรม กระดาษ ผ้าม่าน เป็นต้น เมื่อเปิดแอร์ครั้งต่อไปก็จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดึงเอาความร้อนและความชื้นนี้ออกไป ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

ควรตรวจสอบว่ามีรูรั่วหรือช่องว่างให้ความเย็นออกไปภายนอกได้มากเกินไปหรือไม่ ถ้ามีให้ทำการหาวัสดุมาอุด(ไม่ควรอุดจนอากาศถ่ายเทไม่ได้เลยนะครับ) เพราะถ้าหากปิดประตูหรือหน้าต่างไม่สนิทหรือมีรูรั่ว ก็จะทำให้มีอากาศร้อนจากภายนอกรั่วใหลเข้าไปในห้องได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและสิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้ามากขึ้น

10) สวมใส่เสื้อผ้าบางๆหรือใส่สบาย

จะช่วยให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถตั้งอุณหภูมิของแอร์ให้สูงขึ้นได้ มีหลายที่เลยที่เปิดแอร์ให้เย็นจัดแล้วก็ใส่เสื้อกันหนาวเอา ซื่งจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างมาก

11) หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเป็นประจำ

สำหรับแอร์ที่ใช้งานเป็นประจำ แนะนำให้ถอดฟิลเตอร์กรองอากาศมาล้างทุกสัปดาห์

แนวทางการใช้แอร์ให้ประหยัดไฟแบบมีค่าใช้จ่าย

ถึงแม้จะเป็นแนวทางที่มีค่าใช้จ่าย แต่เมือเปรียบเทียบกับค่าไฟที่ต้องเสียในทุกๆเดือนแล้ว ก็คือว่าคุ้มค่าครับ

12) ล้างแอร์ใหญ่

การล้างแอร์ใหญ่ด้วยการฉีดล้างทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นทำให้ประหยัดไฟมากขึ้น โดยจะล้างบ่อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับชั่วโมงการใช้งานและสถานที่ใช้งาน

• ควรล้างแอร์กี่เดือนครั้งและต้องล้างแอร์ตอนไหน

13) เติมน้ำยาแอร์ให้ตรงตามสเปค

หลังจากล้างแอร์ควรตรวจสอบแรงดันน้ำยาให้ตรงสเปคตามที่ระบุไว้ข้างเนมเพลท เพราะการที่มีน้ำยาในระบบน้อยหรือมากเกินไปก็ทำให้เปลืองพลังงานได้เช่นกัน สำรับแนวทางในการตรวจเช็คเติมน้ำยาแอร์ท่านสามารถดูได้ที่คลิปด้านล่าง

ขอบคุณวีดีโอจากช่อง https://www.youtube.com/channel/ครูกิจจา Style Kru Kijja

14) กรณีแอร์ที่ใช้อยู่เป็นรุ่นเก่ามากๆควรเปลี่ยนแอร์เป็นเบอร์5

ปัจจุบันราคาแอร์ติดผนัง 9,000  BTU ราคาเพียงแปดพันบาทเองครับ ถ้าแอร์เก่ามากๆอายุเกิน10ปีและเริ่มมีปัญหาแล้ว ควรเปลี่ยนแอร์ยกชุดไปเลยจะดีกว่าเพราะแอร์รุ่นเก่าจะกินกระแสไฟค่อนข้างมาก

15) ปิดบังความร้อนจากแสงแดด

เราต้องหาทางลดแสงแดดที่จะสาดเข้าอาคารให้ได้มากที่สุด เช่น การติดผ้าม่านสีอ่อนๆ การต่อกันสาด การปลูกต้นไม้บังแดด ลดการใช้กระจกในการตกแต่งบ้าน เป็นต้น ก็จะสามารถช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากภายนอกเข้ามาภายในห้องได้ ซื่งจะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

16) ติดตั้งม่านอากาศ

แนวทางนี้จะเหมาะกับสถานที่ที่มีคนเปิดประตูเข้าออกบ่อยๆ เพราะม่านอากาศจะช่วยเป่าลมกั้นอากาศที่ร้อนเข้าไปภายในอาคาร อีกทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่นที่จะเข้าไปภายในอาคารได้ด้วย

• ตรวจสอบราคาม่านอากาศ

นอกจากนี้ยังมีแนวทางประหยัดค่าไฟแอร์ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างอาคารด้วยครับ

• วางแผนประหยัดไฟค่าแอร์ก่อนสร้างบ้าน
• ประหยัดค่าไฟแอร์ด้วยการลดความร้อนจากหลังคา

• Facebook
• Twitter
• Line