วิธีการเลือกยี่ห้อและรุ่นแอร์บ้าน
วิธีการเลือกยี่ห้อแอร์บ้าน
1. ก่อนการตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาเฉพาะแอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีปัญหาน้อย โดยสอบถามจากช่างแอร์จะดีที่สุดเพราะช่างแอร์จะรู้ว่าแอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหนมีปัญหามากน้อยเพียงใด (บางยี่ห้อไม่ค่อยคุ้นหูแต่อาจจะมีปัญหาจุกจิกไม่มากก็ได้)
2. สังเกตว่าแอร์ที่ขายในปัจจุบัน จะมีให้เลือกทั้งรุ่นฟอกอากาศและไม่มีฟอกอากาศ ซื่งทั้งสองรุ่นจะมีราคาสูงกว่ากันมาก ผมแนะนำว่าไม่ควรให้ความสำคัญกับเครื่องฟอกอากาศที่ติดมากับแอร์ในการตัดสินใจซื้อเท่าใดนัก เพราะเครื่องฟอกอากาศที่ติดกับแอร์นั้นมีประสิทธิภาพสู้เครื่องฟอกอากาศโดยเฉพาะไม่ได้ และแผ่นฟอกอากาศที่ติดมากับแอร์นั้นมีอายุการใช้งานไม่ถึงปี และหลังจากการใช้งานไป 1 ปีแล้วผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแผ่นฟอกอากาศอยู่แล้วจึงทำให้แอร์เครื่องนั้นมีค่าเท่ากับไม่มีแผ่นฟอกอากาศอยู่แล้ว
3. ในการเลือกซื้อแอร์ในปัจจุบัน ไม่ควรใช้แอร์มาตรฐานต่ำกว่าเบอร์ 5 เพราะนอกจากเราจะประหยัดเงินค่าไฟ ยังช่วยรัฐบาลประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตกระแสไฟ อีกทั้งยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมไม่ให้ถูกทำลายจากการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย
4. เลือกใช้ รุ่นของแอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น
ห้องนอน แอร์ไม่ทำงานหนัก และต้องการความเงียบควรใช้แอร์แบบติดผนัง ไม่อยากให้แอร์มีเสียงดังควรใช้แอร์ติดผนัง แต่แอร์ติดผนังไม่เหมาะกับงานหนักเช่น ร้านอาหาร ห้องทำงาน ออฟฟิท ที่มีคนอยู่ และอุปกรณ์ไฟฟ้า และกลิ่นกระดาษเอกสารมากๆ ควรใช้แอร์ที่เหมาะสำหรับงานหนัก เช่นแอร์ตั้งแขวน ถ้าอยากได้แบบสวยงามก็ต้องใช้เป็นแบบแอร์ฝังฝ้าแต่แอร์แบบนี้มีราคาค่อนข้างแพง
ห้องอาหาร ร้านอาหาร โดยเฉพาะสถานบันเทิงถ้าใช้แอร์แบบตู้ตั้งก็จะทำให้ได้แรงลมที่ไกล แต่ก็มีข้อเสียคือต้องเสียพื้นที่ในการวางแอร์
5. หาขนาดแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องที่จะใช้งาน เพราะถ้าขนาดแอร์ใหญ่กว่าห้องจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเพราะคอมเพรสเซอร์ตัดต่อบ่อย(แอร์ทำงานแปปเดียวก็เย็นจัดจนต้องตัดการทำงาน) อีกทั้งยังเป็นสาเหตุให้เปลืองค่าไฟฟ้าโดยใช่เหตุ และถ้าแอร์ขนาดเล็กกว่าขนาดห้องจะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น แอร์ทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้เปลืองไฟอีกเช่นกัน และยังทำให้อายุการใช้งานของแอร์สั้นลงอีกด้วย